วัดใน ฉะเชิงเทรา วันหยุดนี้หากคุณยังไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหน เราขอแนะนำทริป “ไหว้พระ 9 วัด จังหวัดฉะเชิงเทรา” หรือที่หลายคนมักเรียกว่าเมืองแปดริ้ว ถือเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสวนผลไม้และแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย เอาเป็นว่าลองไปดูสิว่ามีวัดไหนให้ไปไหว้พระ 9 วัด กันบ้าง
วัดใน ฉะเชิงเทรา วัดโสธรวรารามวรวิหาร
วัดใน ฉะเชิงเทรา เริ่มต้นที่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือวัดหลวงพ่อโสธร ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญคือ “หลวงพ่อโสธร” พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง อันเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวแปดริ้วและพุทธศาสนิกชนทั่วไป ตามประวัติเล่าว่าเป็นพระพุทธรูปปาฏิหาริย์ลอยทวนน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ สันนิษฐานว่าตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2313 สมัยต้นกรุงธนบุรี แต่เดิมเป็นพระพุทธรูปหล่อทองสัมฤทธิ์ปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ รูปทรงสวยงามมาก แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงว่าจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะดังที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งทุกวันนี้จะมีผู้คนต่างมานมัสการปิดทองหลวงพ่อโสธรกันเป็นจำนวนมาก วัดโสธรวรารามวรวิหาร
วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่)
วัดจีนประชาสโมสร ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ ตำบลบ้านใหม่ ห่างจากศาลากลางจังหวัด 1 กิโลเมตร เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ขยายมาจากวัดเล่งเน่ยยี่ในกรุงเทพฯ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2449 เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี เพื่อเปิดทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา ได้ทรงพระราชทานนามวัดว่า “วัดจีนประชาสโมสร” ส่วนชื่อภาษาจีนของวัด คำว่า “ฮก” แปลว่า วาสนา โชคลาภ ความมั่งมีศรีสุข เล้ง หรือ เล่ง หมายถึง มังกร จึงมีผู้เรียกวัดนี้ว่า มังกรวาสนา หรือมังกรแห่งโชค”ตามหลักฮวงจุ้ยจีนกล่าวว่าวัดนี้ถือเป็นตำแหน่งท้องมังกร ส่วนตำแหน่งหัวมังกรอยู่ที่วัดเล่งเน่ยยี่ จังหวัดกรุงเทพฯ และหางมังกรนั้นอยู่ที่วัดเล่งฮัวยี่ จังหวัดจันทบุรี ทั้งสามตำแหน่งของมังกรพาดผ่านดินแดนของความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ เยาวราชดินแดนแห่งการค้าขาย เมืองแปดริ้วดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร และจังหวัดจันทบุรีเมืองแห่งอัญมณีพลอยภายในวัดจีนประชาสโมสรมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น ท้าวจัตุโลกบาลขนาดใหญ่ 4 องค์ทำจากกระดาษที่ประตูทางเข้า พระประธาน 3 องค์และองค์ 18 อรหันต์ ทำด้วยกระดาษนำมาจากเมืองจีน รูปหล่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่เซ่งเอี้ย) ที่อยู่ด้านขวาขององค์พระประธาน และยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ตามคติจีน ระฆังใบใหญ่น้ำหนักกว่า 1 ตัน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ใบในโลกที่รอบระฆังมีอักษรมหาปรัชญาปารมิตราสูตร ถือกันว่าผู้ได้ใดตีระฆังก็เหมือนกับการสวดมนต์ซึ่งได้บุญกุศล นอกจากนี้ยังมีวิหารศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เช่น วิหารบูรพาจารย์ วิหารเจ้าแม่กวนอิม แกะสลักจากรากไม้ทั้งต้นอายุประมาณ 100 ปี วิหารตี่จั๊งอ๊วง สระนทีสวรรค์และพญามังกร เป็นต้น
วัดโพธิ์บางคล้า
วัดโพธิ์บางคล้า ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต อยู่ห่างจากตัวเมืองฉะเชิงเทรา 23 กิโลเมตร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 2310-2325 สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นศิลปะอยุธยากับรัตนโกสินทร์ พระวิหารจัตุรมุข ก่ออิฐฉาบปูน หลังคาทรงจั่วมุงกระเบื้องเกล็ดเต่าทำจากดินเผา ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ บริเวณวัดจะเห็นค้างคาวแม่ไก่เกาะอยู่ตามต้นไม้ (หากล่องเรือชมทัศนียภาพตามลำน้ำบางปะกงจะผ่านวัดนี้ นักท่องเที่ยวสามารถแวะขึ้นชมวัดได้จากท่าน้ำของวัด)
ในปี พ.ศ. 2485 มีผู้ใจบุญได้ซ่อมหลังคาใหม่ โดยมุงด้วยกระเบื้องเกล็ดเต่าเคลือบสี หน้าบันจั่วทิศตะวันตก เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ประดับด้วยลายเครือเถาหน้าบัน จั่วด้านประตูปั้นเป็นรูปดอกบัว 5 ดอก ประดับแจกัน หลังคาประดับด้วยช่อฟ้ารูปหัวพญานาค มีใบระกา และต่อมาหลังคาและนาคปั้นก็เกิดความชำรุดเสียหายอีก ทางอำเภอบางคล้าได้ร่วมกับประชาชนบริจาคทรัพย์เพื่อช่วยซ่อมแซมขึ้นในปี พ.ศ. 2541 เป็นการอนุรักษ์ของเดิมเอาไว้เพื่อเป็นมรดกของชาติ โดยได้ทำการซ่อมหลังคาโครงสร้างใหม่หมด ตั้งเสาเสริมความเข้มแข็ง 4 ด้าน รวม 8 ด้าน ฉาบผนังภายในโดยก่ออิฐฉาบปูนทุกด้าน เปลี่ยนฝ้าเพดาน เปลี่ยนโคมไฟ ปูพื้นใหม่ด้วยหินอ่อน และปูศิลาแลงโดยรอบวิหารทั้ง 4 ด้าน และทางวัดได้ดำเนินการประดับตกแต่งเครื่องบนตัวนาคและลวดลายหน้าบัน เพื่อทรงคุณค่าทางศิลปกรรมและมรดกทางวัฒนธรรม
วัดสมานรัตนาราม
วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีองค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุข ซึ่งถือเป็นปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยให้ได้ไปกราบไหว้ อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ ฐานพิฆเนศองค์ใหญ่จะมีพระพิฆเนศทั้ง 32 ปาง ประดิษฐานอยู่ เพื่อให้ผู้คนกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วัดสมานรัตนารา (ใหม่ขุนสมาน) ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 081-983 0400 หรือที่เว็บไซต์ วัดสมานรัตนาราม
วัดชมโพธยาราม
วัดใน ฉะเชิงเทรา เป็นวัดแห่งเดียวในจังหวัดฉะเชิงเทราที่มีการก่อสร้างสังเวชนียสถานให้พุทธศาสนิกชนได้นมัสการครบทั้ง 4 ตำบล วัดชมโพธยาราม สำหรับสังเวชนียสถานคือสถานที่อันเป็นที่ตั้งแห่งความสังเวช โดยเมื่อดูแล้วทำให้จิตหันมาคิดถึงสิ่งที่ดีงาม เกิดความไม่ประมาท และเพียรพยายามทำสิ่งที่ดีงาม โดยมี 4 แห่ง คือ
1. สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ สถานที่แห่งนี้เป็นอุทยานเรียกว่า “ลุมพินี” ปัจจุบันอยู่ในประเทศเนปาล
2. พุทธคยาเจดีย์ตรัสรู้ เป็นเจดีย์สีเหลืองทอง สามารถเห็นได้แต่ไกล สถานที่จริงปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองปัตนะ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
3. เจดีย์ปฐมเทศนา จำลองเหมือนจริงเจดีย์เป็นรูปทรงตัวโอคว่ำหรือบาตรคว่ำ เรียกว่า ธัมเมกขสถูป เป็นสถานที่แสดงธรรม เรียกว่า ธรรมจักกัปปวัตนสูตร สถานที่จริงปัจจุบันตั้งอยู่ที่ตำบลสารนาถ เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย
4. สถานที่ปรินิพพาน สร้างเป็นอาคารโดมขนาดใหญ่ ภายในเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ สถานที่จริงปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองกาเซีย รัฐอุตตร ประเทศอินเดีย